Marketing

7 ขั้นตอนในการสร้างแผนการตลาดดิจิทัลโดยละเอียดตั้งแต่ A-Z

ความสามารถในการเรียนรู้

532 ยอดดู

สารบัญ

ในยุคดิจิทัล การตลาดดิจิทัลไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับธุรกิจต่างๆ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จะรู้วิธีการทำการตลาดดิจิทัลอย่างถูกต้อง ส่งผลให้สิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่ได้ประสิทธิภาพ บทความนี้จะแนะนำคุณในการสร้างแผนการตลาดดิจิทัลอย่างมืออาชีพใน 7 ขั้นตอน เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและต้นทุน

การตลาดดิจิทัลคืออะไร? ทำไมเราต้องวางแผน?

การตลาดดิจิทัลคือกิจกรรมทางการตลาดที่ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น เว็บไซต์ เครือข่ายสังคมออนไลน์ เครื่องมือค้นหา อีเมล... เพื่อเข้าถึงลูกค้าเป้าหมาย สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การนำการตลาดไปใช้อย่างเป็นระบบจะช่วยประหยัดต้นทุน เพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ และเพิ่มยอดขาย

Tang gap 3 ty le chot don

การตลาดดิจิทัลคืออะไร? ทำไมเราต้องวางแผน?

อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจหลายคนมักทำผิดพลาดเพราะการทำการตลาดดิจิทัลโดยอาศัยความรู้สึก เช่น เห็นคนอื่นทำโฆษณาบน Facebook พวกเขาก็ทำเช่นกัน เห็นคู่แข่งทำ TikTok พวกเขาก็ทำเช่นกัน สิ่งเหล่านี้นำไปสู่การสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพ ดังนั้น การวางแผนอย่างละเอียดจึงเป็นแนวทางในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เลือกช่องทางที่เหมาะสม จัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม และวัดผลได้อย่างชัดเจน

คู่มือการวางแผนการตลาดดิจิทัลโดยละเอียด

ขั้นตอนที่ 1: วิเคราะห์ตลาดและคู่แข่ง

ก่อนเริ่มกิจกรรมใดๆ ให้ระบุกลุ่มผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณให้บริการ ประเมินแนวโน้มการเติบโตและพฤติกรรมผู้บริโภคของกลุ่มเป้าหมายผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น Google Trends หรือการค้นหาคำหลักบน Google Keyword Planner

ขณะเดียวกัน ให้วิเคราะห์คู่แข่งของคุณในอุตสาหกรรมเดียวกัน:

  • พวกเขากำลังโปรโมตผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มใด
  • อะไรที่ทำให้เนื้อหาของพวกเขาโดดเด่น
  • ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กันอย่างไร

การทำความเข้าใจวิธีการของคู่แข่งไม่ใช่การลอกเลียนแบบ แต่เป็นการค้นหาความแตกต่างและความได้เปรียบในการแข่งขันของคุณเอง

ขั้นตอนที่ 2: กำหนดเป้าหมายการตลาดดิจิทัลของคุณ

แต่ละแคมเปญต้องเชื่อมโยงกับเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง เพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองเงินและความพยายาม ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มคำสั่งซื้อ การดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย หรือการสร้างแบรนด์

การใช้โมเดล SMART จะช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายของคุณได้ดังนี้:

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป้าหมายของคุณสามารถวัดผลได้ เป็นจริง และมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน
  • ตัวอย่างเช่น แทนที่จะตั้งเป้าหมายว่า "เพิ่มรายได้" ให้ตั้งเป้าหมายเป็น "เพิ่ม 300 คำสั่งซื้อจากเว็บไซต์ภายใน 3 เดือนข้างหน้า"
Tang gap 3 ty le chot don

SMART Model

ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันภาพลักษณ์ของลูกค้าเป้าหมาย (Customer Persona)

เพื่อทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องเข้าใจว่าลูกค้าในอุดมคติของคุณคือใคร

วาดภาพบุคคลของพวกเขาโดยละเอียด: อายุ เพศ อาชีพ ระดับรายได้ พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย ความสนใจ และปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญ

ตัวอย่างเช่น หากคุณขายสินค้าให้คุณแม่ ให้ระบุให้ชัดเจนว่าพวกเขามักจะออนไลน์เมื่อใด สิ่งที่พวกเขาสนใจ เนื้อหาอะไรที่ทำให้พวกเขาหยุดอ่าน การทำความเข้าใจลูกค้าจะช่วยให้คุณเลือกช่องทางที่เหมาะสม ข้อความที่เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการขาย

ขั้นตอนที่ 4: เลือกช่องทางและกลยุทธ์ที่เหมาะสม

ไม่ใช่ทุกธุรกิจจำเป็นต้องปรากฏบนทุกแพลตฟอร์ม เลือก 2-3 ช่องทางที่เหมาะสมกับลูกค้าเป้าหมายที่ระบุไว้ในขั้นตอนก่อนหน้า หากลูกค้าของคุณใช้ Facebook บ่อย ให้เน้นที่เนื้อหาสำหรับ Facebook หาก พวกเขาค้นหาข้อมูลบน Google บ่อยๆ ให้ลงทุนกับ SEO และลงโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหา (Search Ads)

กลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องก็สำคัญเช่นกัน หากสินค้าเป็นสินค้าใหม่และต้องการสร้างการรับรู้อย่างรวดเร็ว คุณสามารถเลือกกลยุทธ์ที่ครอบคลุมด้วยโฆษณาบน Facebook หากเป้าหมายคือการปิดการขาย ให้ใช้ Landing Page ร่วมกับเครื่องมือรีมาร์เก็ตติ้งหรืออีเมล หลังจากที่ลูกค้าให้ข้อมูลแล้ว

ดูเทมเพลตหน้า Landing Page ของ GTG CRM: https://gtgcrm.com/en/page/gallery

ขั้นตอนที่ 5: สร้างเนื้อหาสำหรับแต่ละช่องทาง

เนื้อหาเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างแบรนด์และลูกค้า แต่ละแพลตฟอร์มมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง คุณจึงจำเป็นต้องปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสม

  • สำหรับ Facebook เนื้อหาควรกระชับ กระชับ มีรูปภาพที่สะดุดตา และชื่อเรื่องที่ดึงดูดใจ
  • สำหรับ LinkedIn ให้สร้างเนื้อหาที่เป็นมืออาชีพและให้ข้อมูล
  • สำหรับ Google ให้ปรับแต่งเนื้อหาด้วยคีย์เวิร์ดเพื่อให้ติดอันดับต้นๆ ของผลการค้นหา

ที่สำคัญกว่านั้น เนื้อหาทั้งหมดต้องตอบโจทย์ปัญหา คำถาม หรือความต้องการของลูกค้า อย่าพูดถึงแค่ตัวสินค้า แต่ควรพูดถึงวิธีที่สินค้าช่วยให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้น

คุณสามารถลองใช้ฟีเจอร์ "AI Content Creation" ของ GTG CRM ซึ่งช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาสำหรับหลายแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย

ขั้นตอนที่ 6: จัดสรรงบประมาณและทรัพยากร

แผนที่ดีควรมีงบประมาณที่ชัดเจน ไม่ว่าคุณจะมีงบประมาณ 5 ล้านหรือ 50 ล้านต่อเดือน ให้จดรายการค่าใช้จ่ายและจัดสรรให้เหมาะสม

  • หากลูกค้าส่วนใหญ่ของคุณมาจากการโฆษณา คุณควรให้ความสำคัญกับงบประมาณสำหรับโฆษณาเป็นอันดับแรก
  • หากคุณต้องการสร้างแบรนด์ในระยะยาว ควรลงทุนในเนื้อหา

ในขณะเดียวกัน คุณต้องพิจารณาต้นทุนของเครื่องมือต่างๆ เช่น ซอฟต์แวร์การตลาดทางอีเมล, Landing Page, CRM, ... และแม้แต่บุคลากรหากคุณจ้างบุคคลภายนอก การจัดทำงบประมาณจะช่วยให้คุณไม่เกินงบประมาณ และยังคงมั่นใจได้ว่ากิจกรรมทั้งหมดจะเกิดขึ้นอย่างครบถ้วน

ขั้นตอนที่ 7: วัดผลและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญ

การตลาดดิจิทัลมีข้อได้เปรียบอย่างมากในการวัดประสิทธิภาพ แต่หากคุณไม่ติดตามผล คุณจะไม่รู้ว่าโฆษณาใดมีประสิทธิภาพ เนื้อหาใดดี และสิ่งใดที่ต้องปรับปรุง ติดตามตัวชี้วัดสำคัญๆ เช่น:

  • อัตราการคลิกผ่าน (CTR)
  • อัตราการแปลง (CR)
  • ต้นทุนต่อการซื้อ (CPA)

จากข้อมูลดังกล่าว คุณจะรู้ว่าควรปิดโฆษณาใด เพิ่มงบประมาณให้ช่องทางใด หรือปรับเนื้อหาอย่างไร

สรุป

แผนการตลาดดิจิทัลที่มีโครงสร้างที่ดีไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่จำเป็นต้องชัดเจนและวัดผลได้ เมื่อคุณรู้ว่ากำลังทำอะไร ทำเพื่อใคร และมีเป้าหมายอะไร ผลลัพธ์ก็จะชัดเจนขึ้น งบประมาณของคุณจะไม่สูญเปล่า และคุณสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและต้องการเริ่มต้นการตลาดดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ลองดูเครื่องมือสนับสนุนต่างๆ เช่น GTG CRM - แพลตฟอร์มแบบบูรณาการสำหรับการสร้าง Landing Page, การตลาดผ่านอีเมล, การวัดประสิทธิภาพของแคมเปญ, การจัดการลูกค้า และอื่นๆ อีกมากมายในที่เดียว

พร้อมเติบโตไปกับ GTG CRM

ทดลองใช้ฟรี 14 วัน
ฟีเจอร์ครบทุกอย่าง
ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต