Sale

เคล็ดลับในการสร้างกระบวนการขายที่ช่วยเพิ่มคำสั่งซื้อของคุณเป็นสามเท่า

ความสามารถในการเรียนรู้

532 ยอดดู

สารบัญ

กระบวนการขายที่มีโครงสร้างที่ดีเปรียบเสมือน “เข็มทิศทองคำ” ที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กเปลี่ยนลูกค้าเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าประจำ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพและการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน เพิ่มอัตราการเปลี่ยนลูกค้าเป็นลูกค้าใหม่โดยเฉลี่ย 28% และรายได้เพิ่มขึ้น 15-20% บทความนี้จะแนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับการสร้างกระบวนการขาย 7 ขั้นตอน พร้อมตัวอย่างและรายการตรวจสอบที่ใช้งานได้จริงให้คุณนำไปปรับใช้ได้ทันที ช่วยให้คุณเพิ่มยอดสั่งซื้อได้สามเท่าในเวลาอันสั้น

กระบวนการขายคืออะไร?

กระบวนการขายคือชุดขั้นตอนที่ออกแบบมาเพื่อนำทางลูกค้าตั้งแต่การสร้างการรับรู้ไปจนถึงการซื้อและความภักดี ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การสร้างลูกค้าเป้าหมาย การเข้าถึงลูกค้า การโน้มน้าวใจ การปิดการขาย และการดูแลหลังการขาย กระบวนการที่มีประสิทธิภาพควร:

  • เป็นระบบ: พนักงานทุกคนนำไปใช้และทำซ้ำได้ง่าย
  • วัดผลได้: ช่วยติดตามประสิทธิภาพในแต่ละขั้นตอน (เช่น อัตราการแปลง เวลาปิดทำการ)
  • มุ่งเน้นลูกค้า: ตอบสนองความต้องการที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ "ขาย" สินค้า

ตัวอย่างเช่น: ร้านค้าแฟชั่นออนไลน์สามารถสร้างกระบวนการตั้งแต่การลงโฆษณาบน Instagram (การหาลูกค้าเป้าหมาย) การเข้าถึงลูกค้าผ่านการให้คำปรึกษาผ่านข้อความ การจัดส่งสินค้า และการส่งอีเมลขอบคุณหลังจากที่ลูกค้า ซื้อสินค้า

ทำไมต้องสร้างกระบวนการ ยอดขายที่ได้มาตรฐาน?

หากไม่มี กระบวนการ ทีมขายมีแนวโน้มที่จะ:

  • การทำงานด้วยอารมณ์: พนักงานแต่ละคนใช้วิธีการของตนเอง นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เท่าเทียมกัน
  • การพลาดลูกค้า: การไม่ติดตามลูกค้าเป้าหมาย พลาดโอกาสในการปิดการขาย
  • การฝึกอบรมยาก: พนักงานใหม่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร
  • ไม่สามารถวัดผลได้: ไม่ชัดเจนว่าขั้นตอนใดมีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐาน

ในทางตรงกันข้าม กระบวนการที่เป็นมาตรฐานจะนำมาซึ่งประโยชน์:

  • การเพิ่มประสิทธิภาพ: พนักงานทำงานอย่างเป็นเอกภาพ ลด ข้อผิดพลาด
  • ปรับขนาดได้ง่าย: ฝึกอบรมพนักงานใหม่และจำลองรูปแบบการขายได้อย่างง่ายดาย
  • ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า: ลูกค้าได้รับบริการที่สม่ำเสมอและเป็นมืออาชีพ
  • การเพิ่มประสิทธิภาพโดยใช้ข้อมูล: วิเคราะห์และปรับปรุงทีละขั้นตอนได้อย่างง่ายดาย

แผนภาพกระบวนการขาย 7 ขั้นตอนด้วย GTG CRM

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมและกำหนด เป้าหมาย

เป้าหมาย: ทำความเข้าใจลูกค้าและตลาดของคุณเพื่อสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสม

วิธีการ มัน:

  • การวิจัยตลาด: ใช้เครื่องมือเช่น Google Trends, SEMrush หรือแบบสำรวจความคิดเห็นลูกค้า เพื่อระบุแนวโน้มและความต้องการ
  • บุคลิกของผู้ซื้อ: ระบุอายุ รายได้ พฤติกรรม และปัญหาของพวกเขา ตัวอย่างเช่น: ร้านเครื่องสำอางอาจกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้หญิงอายุ 25-35 ปี ที่สนใจผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
  • เลือกช่องทาง: การโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย, SEO หรือสัมมนา
  • กำหนด KPI: ตัวอย่างเช่น รวบรวมลูกค้าเป้าหมาย 100 ราย/เดือน หรือบรรลุอัตราการแปลง 20%

ธุรกิจจำเป็นต้องศึกษาตลาด ลูกค้า เพื่อสร้าง กระบวนการขาย

คุณสามารถใช้แพลตฟอร์ม CRM เพื่อลดความซับซ้อนของขั้นตอนนี้ GTG CRM เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถช่วยสังเคราะห์ข้อมูลลูกค้าจากหลายแหล่ง และจัดการข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพบนแพลตฟอร์มเดียว หากคุณไม่ได้ใช้ CRM คุณสามารถใช้ Google Sheets เพื่อบันทึกข้อมูลได้

ขั้นตอนที่ 2: ค้นหาลูกค้าเป้าหมาย

เป้าหมาย: สร้างรายชื่อลูกค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพในการซื้อสูง

วิธีการ:

  • รวบรวมลูกค้าเป้าหมาย: ใช้แบบฟอร์มลงทะเบียนบนเว็บไซต์/หน้า Landing Page, โฆษณาแบบชำระเงิน หรืออีเวนต์ออฟไลน์
  • คัดกรองลูกค้าเป้าหมาย: จำแนกตามความต้องการ ความสามารถในการซื้อ และระดับความสนใจ
  • ใช้การให้คะแนนลูกค้าเป้าหมาย: ประเมินลูกค้าเป้าหมายตามพฤติกรรม (เช่น การดาวน์โหลดอีบุ๊ก = 10 คะแนน, การโทรขอคำปรึกษา = 50 คะแนน คะแนน)

ระบุลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์ของคุณจริงๆ

GTG CRM รวบรวมข้อมูลลูกค้าเป้าหมายจากหลากหลายแหล่งโดยอัตโนมัติ เช่น Landing Page, แบบฟอร์มลงทะเบียน, เครือข่ายสังคมออนไลน์, แสดงช่องข้อมูลที่ยืดหยุ่นเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าได้ดีขึ้น จึงสามารถจัดกลุ่มลูกค้าได้อย่างเหมาะสม ด้วยเหตุนี้ ทีมขายจึงสามารถประหยัดเวลาและจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เหมาะสมได้

นอกจากนี้ GTG CRM ยังมีเทมเพลต Landing Page พร้อมแบบฟอร์มกรอกข้อมูลในตัวและแชทสด ช่วยให้การรวบรวมลูกค้าเป้าหมายเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย ดูตัวอย่างตอนนี้ .

ขั้นตอนที่ 3: เข้าหาและสร้าง ความสัมพันธ์

เป้าหมาย: สร้างความประทับใจที่ดีและเข้าใจความต้องการของลูกค้า

วิธีการ ถึง:

  • ปรับแต่งการติดต่อของคุณ: ส่งอีเมลหรือข้อความตามข้อมูลของผู้ที่สนใจ ตัวอย่าง: “สวัสดีครับ คุณน้ำ ผมเห็นว่าคุณสนใจหลักสูตรการตลาด คุณกำลังพยายามแก้ปัญหาอะไรอยู่ครับ”
  • ถามคำถามปลายเปิด: สอบถามปัญหาของลูกค้าแทนที่จะแนะนำสินค้าเพียงอย่างเดียว
  • ติดตามผลอย่างต่อเนื่อง: บันทึกการโต้ตอบทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลซ้ำซ้อน

GTG CRM รองรับการส่งอีเมลและข้อความตรงเข้าระบบโดยตรง และในเวลาเดียวกัน รวบรวม ข้อความทั้งหมดจากช่องทางต่างๆ ลงในกล่องข้อความขาเข้าส่วนกลาง เพื่อให้สามารถติดป้ายกำกับ จัดประเภทตามสถานะ (เช่น กำลังดำเนินการ ชำระเงินแล้ว พันธมิตร ฯลฯ) และรองรับการส่งข้อความจำนวนมาก วิธีนี้ช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้ 10-15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์โดยไม่พลาดการสนทนาใดๆ เลย

ขั้นตอนที่ 4: แนะนำผลิตภัณฑ์/บริการ

วัตถุประสงค์: นำเสนอโซลูชันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า

วิธีการ:

  • เน้นคุณค่า: แทนที่จะระบุคุณสมบัติ ให้เน้นย้ำถึงประโยชน์ ตัวอย่างเช่น แทนที่จะพูดว่า "ผลิตภัณฑ์มี SPF 50" ให้พูดว่า "ปกป้องผิวจากรังสียูวี 98%"
  • ปรับแต่งโซลูชัน: ยกตัวอย่างเฉพาะเจาะจง ตัวอย่าง: “ด้วยงบประมาณ 10 ล้าน เราขอแนะนำแพ็คเกจออกแบบเว็บไซต์นี้เพื่อเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ 30%”
  • ใช้เนื้อหาภาพ: ส่งวิดีโอสาธิต อินโฟกราฟิก หรือหน้า Landing Page

GTG มีเทมเพลตหน้า Landing Page สำเร็จรูป ช่วยให้แบรนด์ต่างๆ แนะนำผลิตภัณฑ์ได้อย่างมืออาชีพ สอดคล้อง และง่ายดาย นอกจากนี้ GTG CRM ยังมีเทมเพลตอีเมลที่ช่วยให้คุณดูแลลูกค้าได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว   ทดลองใช้ฟรีตอนนี้!

เทมเพลตหน้า Landing Page ของ GTG CRM Treasure

ขั้นตอนที่ 5: เสนอราคาและโน้มน้าวใจ ลูกค้า สินค้า

  วัตถุประสงค์: โน้มน้าวใจลูกค้าด้วยข้อเสนอที่เหมาะสมและชัดเจน

วิธีการ:

  • ใบเสนอราคาที่โปร่งใส: ส่งรายการราคาโดยละเอียด พร้อมสิ่งจูงใจ (ถ้ามี) ตัวอย่าง: “แพ็กเกจพื้นฐาน 5 ล้าน/เดือน ส่วนลด 10% หากชำระ 6 เดือน”
  • จัดการข้อกังวล: เตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่พบบ่อย (ราคา คุณภาพ บริการหลังการขาย)
  • สร้างความรู้สึกขาดแคลน: ตัวอย่าง: “ข้อเสนอนี้ใช้ได้เฉพาะถึงสิ้นเดือนเท่านั้น”

GTG CRM ช่วยให้สามารถสื่อสารกับลูกค้าบนแพลตฟอร์มเดียว บันทึกการสนทนาทั้งหมด ช่วยให้ทีมสามารถติดตาม ประสานงาน และนำเสนอข้อความโน้มน้าวใจที่ถูกต้องได้อย่างง่ายดาย

ขั้นตอนที่ 6: ตอบคำถาม และปิดการขาย ข้อตกลง

เป้าหมาย: ขจัดอุปสรรคและกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจ

วิธีการ:

  • การตอบกลับอย่างรวดเร็ว: ตอบคำถามภายใน 24 ชั่วโมง
  • สรุปประโยชน์: ย้ำคุณค่าสำคัญของผลิตภัณฑ์/บริการ
  • คำกระตุ้นการตัดสินใจที่ชัดเจน: ตัวอย่าง: “คุณอยากให้ฉันส่งสัญญาให้คุณวันนี้ไหม”

แชทสดของ GTG CRM รองรับการตอบลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ปุ่มแชทสดสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า หากคุณมีเว็บไซต์อยู่แล้ว เพียงคัดลอกและวางสคริปต์นี้ลงในเว็บไซต์เพื่อใช้งานแชทสดแบบสมบูรณ์

อินเทอร์เฟซแชทสด GTG CRM

ขั้นตอนที่ 7: บริการหลังการขาย - Upsell & การรักษาลูกค้า

เป้าหมาย: สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวและเพิ่มมูลค่าลูกค้า (LTV)

วิธีการ:

  • ส่งโน้ตขอบคุณ: อีเมลหรือข้อความขอบคุณหลังจากการซื้อ
  • สอบถามเกี่ยวกับประสบการณ์: ส่งแบบสำรวจสั้นๆ (5 คำถาม) เพื่อรับคำติชม
  • เพิ่มยอดขาย/ขายต่อเนื่อง: แนะนำสินค้าเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น: เมื่อลูกค้าซื้อเครื่องสำอาง คุณสามารถแนะนำมาส์กบำรุงผิวเพิ่มเติมได้
  • โปรแกรมแสดงความขอบคุณ: มอบบัตรกำนัลหรือเชิญเข้าร่วมโปรแกรมสะสมคะแนน

ในขั้นตอนนี้ GTG CRM สามารถช่วยคุณได้อย่างครบถ้วนด้วยฟีเจอร์เวิร์กโฟลว์อัตโนมัติ ส่งอีเมลอัตโนมัติ ช่วยรักษาความสัมพันธ์ เพิ่มอัตราการกลับมาใช้บริการ และเปลี่ยนลูกค้าให้กลายเป็นลูกค้าที่บอกต่อแบรนด์อย่างเป็นธรรมชาติ

วิธีสร้างกระบวนการดูแลลูกค้าอัตโนมัติด้วย GTG CRM

สรุป

การสร้างกระบวนการขายที่เป็นระบบไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มอัตราการเปลี่ยนลูกค้าเป็นลูกค้า (conversion rate) เท่านั้น แต่ยังสร้างรากฐานสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย ด้วย 7 ขั้นตอนข้างต้น คุณสามารถเริ่มต้นได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ CRM แต่เครื่องมือ CRM อัจฉริยะอย่าง GTG CRM จะช่วยทำให้กระบวนการทำงานเป็นอัตโนมัติและติดตามผลได้ ช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้หลายชั่วโมง ทดลองใช้ GTG CRM ฟรีได้แล้ววันนี้ ที่ GTG CRM .

พร้อมเติบโตไปกับ GTG CRM

ทดลองใช้ฟรี 14 วัน
ฟีเจอร์ครบทุกอย่าง
ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต