คุณใช้เงินไปกับการโฆษณาเยอะแต่เว็บไซต์ของคุณกลับไม่ประสบความสำเร็จใช่ไหม? ในขณะที่คู่แข่งของคุณมักจะขึ้นอันดับบน Google โดยไม่ต้อง "สิ้นเปลือง" งบประมาณมากเกินไป คำตอบอยู่ที่รากฐานหลัก นั่นคือเว็บไซต์/Landing Page ที่ได้มาตรฐาน SEO
ในยุคดิจิทัล เว็บไซต์ไม่เพียงแต่เป็น "หน้าตา" เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือทางธุรกิจที่ทรงพลังอีกด้วย เพื่อให้ทุกแคมเปญการตลาดมีประสิทธิภาพและยั่งยืน คุณจำเป็นต้องมั่นใจว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นมิตรกับทั้งผู้ใช้และเครื่องมือค้นหา
การสร้างเว็บไซต์/Landing Page ตามมาตรฐาน SEO โดยใช้ GTG CRM
องค์ประกอบหลักของเว็บไซต์/Landing Page ด้วย SEO มาตรฐาน
เว็บไซต์/Landing Page ถือเป็นมาตรฐาน SEO เมื่อเป็นไปตามข้อกำหนดทั้งด้านเทคนิค เนื้อหา และประสบการณ์ผู้ใช้ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดมีดังนี้
โดเมนและโฮสติ้ง
-
โดเมน:
ควรเกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือชื่อแบรนด์ ชื่อโดเมนที่มีอายุการใช้งานยาวนานมักจะมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
-
โฮสติ้ง:
การโฮสติ้งที่มีความเร็วสูงและเซิร์ฟเวอร์ IP ที่เหมาะสมตามสถานที่ตั้งของผู้ใช้จะช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น ชื่อโดเมน .com หรือ .vn มักได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้มากกว่า
ความเร็วเว็บไซต์ (Page Speed)
-
ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดอันดับ เว็บไซต์ที่โหลดช้าจะทำให้ผู้ใช้ออกจากเว็บไซต์และ
เพิ่มอัตราตีกลับ
.
-
ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บตามมาตรฐาน SEO มักจะอยู่ที่ 1-3 วินาที คุณต้องปรับแต่งทั้งเวอร์ชันเดสก์ท็อปและเวอร์ชันมือถือให้เหมาะสมที่สุด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
โครงสร้างเว็บไซต์
-
โครงสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่ายและมีเหตุผล จะช่วยให้ผู้ใช้และบอทของเครื่องมือค้นหาสามารถสำรวจและทำความเข้าใจเนื้อหาของคุณได้อย่างง่ายดาย
-
ออกแบบโครงสร้างโดยพิจารณาจากพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อให้พวกเขาสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
ออกแบบสำหรับเวอร์ชันมือถือ (Mobile-friendly)
-
เครื่องมือค้นหามักนิยมเว็บไซต์ที่ใช้งานได้กับอุปกรณ์มือถือ หากเว็บไซต์ของคุณไม่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับมือถือ คุณอาจสูญเสียลูกค้าเป้าหมายจำนวนมาก
ปัจจัยภายในหน้าเว็บ
-
URL:
ลิงก์ของหน้าเว็บควรสั้น อ่านง่าย และมีคำหลักหลัก
-
แท็กชื่อเรื่อง (H1, H2, H3):
โครงสร้างแท็กชื่อเรื่องที่ชัดเจนไม่เพียงแต่ช่วยให้บอทเข้าใจเนื้อหา แต่ยังทำให้ผู้ใช้อ่านบทความได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
-
Meta Title & Meta Description:
นี่คือสิ่งที่ผู้ใช้เห็นในผลการค้นหา ชื่อเรื่องและคำอธิบายที่น่าสนใจพร้อมคำหลักจะ
เพิ่ม
อัตราการคลิกผ่าน (CTR)
.
ปัจจัยที่ต้องรู้เมื่อทำ SEO
ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อทำ SEO
เว็บไซต์ SEO มาตรฐานคือการผสมผสานที่ลงตัวของปัจจัยต่างๆ มากมาย ตั้งแต่เนื้อหา ลิงก์ ไปจนถึงโครงสร้างทางเทคนิค
เนื้อหา: หัวใจสำคัญของทุกเว็บไซต์
เนื้อหาเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เป็นหัวใจสำคัญของเว็บไซต์ เนื้อหาคุณภาพ คือ เนื้อหาที่มอบคุณค่าที่แท้จริง ความรู้ที่เป็นประโยชน์ หรือแนวทางแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้
-
คุณภาพของเนื้อหา:
เนื้อหาควรมุ่งเน้นที่ผู้ใช้เป็นหลัก ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ของผู้ใช้ เนื้อหาคุณภาพจะทำให้ผู้ใช้อยู่ในเว็บไซต์นานขึ้น ลดอัตราการตีกลับ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
-
สร้างเนื้อหาจากผู้เชี่ยวชาญ:
นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดึงดูดลิงก์ที่เป็นธรรมชาติ เมื่อคุณได้รับการยอมรับในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ชื่อเสียงและการมองเห็นออนไลน์ของคุณก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
-
การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO:
บทความแต่ละบทความต้องเป็นไปตามเกณฑ์ทางเทคนิค เช่น ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม โครงสร้างแท็กชื่อเรื่องที่ชัดเจน (H1, H2,
H3...) และมีลิงก์ภายในและลิงก์ขาออกที่เหมาะสม
Backlink & อำนาจ: "การโหวต" ของเว็บไซต์
ลิงก์ โดยเฉพาะลิงก์ภายนอกที่ชี้มายังเว็บไซต์ของคุณ เปรียบเสมือน "การโหวต"
หรือการรับรองจากเว็บไซต์อื่นๆ
-
คุณภาพเหนือปริมาณ:
ลิงก์เพียงลิงก์เดียวจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้และเกี่ยวข้องกับหัวข้อของคุณ มีค่ามากกว่าลิงก์คุณภาพต่ำหลายร้อยลิงก์
-
กลยุทธ์การสร้างแบ็คลิงก์:
แทนที่จะซื้อและขายลิงก์ ให้มุ่งเน้นไปที่การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า สร้างความสัมพันธ์กับผู้ทรงอิทธิพล และใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียเพื่อขยายเนื้อหาของคุณ แบ็คลิงก์ธรรมชาติคือแบ็คลิงก์ที่ดีที่สุด
-
ข้อความเชื่อมโยง:
ข้อความเชื่อมโยงช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถยืนยันได้ว่าเนื้อหาในหน้าลิงก์นั้นเกี่ยวกับอะไร
การใช้ anchor text ที่หลากหลายเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูล
การปรับแต่งทางเทคนิคและ On-page: สร้างรากฐานที่แข็งแกร่ง
ปัจจัยทางเทคนิคและ On-page เป็นตัวกำหนดว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นมิตรกับเครื่องมือค้นหาและผู้ใช้หรือไม่
-
โดเมนและโฮสติ้ง:
ชื่อโดเมนควรมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาและมีอายุการใช้งานยาวนาน โฮสติ้งความเร็วสูงและเซิร์ฟเวอร์ IP ที่เหมาะสม
กับตำแหน่งของเว็บไซต์จะช่วยปรับปรุงความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ
-
ความเร็วเว็บไซต์:
ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดอันดับ เว็บไซต์ที่โหลดเร็วจะมอบประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับผู้ใช้ และ Google ให้ความชื่นชมอย่างมาก มาตรฐาน SEO อยู่ที่ 1-3 วินาที
-
โครงสร้างเว็บไซต์ (Structure):
โครงสร้างเว็บไซต์ที่เป็นระบบและมีลำดับชั้นที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้ใช้และบอทของเครื่องมือค้นหาสามารถนำทางและทำความเข้าใจเนื้อหาของคุณได้อย่างง่ายดาย
-
การจัดทำดัชนีสำหรับมือถือเป็นอันดับแรก:
เครื่องมือค้นหาให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่มีเวอร์ชันมือถือเป็นอันดับแรก หากเว็บไซต์ของคุณไม่รองรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ อันดับของคุณจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
-
ปัจจัยภายในเว็บไซต์:
ปรับแต่งแท็กชื่อเรื่อง (H1, H2, H3...), คำอธิบายเมตา, URL และใช้รูปภาพ/วิดีโอคุณภาพสูง
ประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) และเครือข่ายสังคมออนไลน์ (โซเชียล)
ประสบการณ์ผู้ใช้เป็นปัจจัยหลักที่เครื่องมือค้นหามุ่งเน้น พวกเขาต้องการมอบผลลัพธ์ที่ผู้ใช้พึงพอใจ
-
ปรับปรุงพฤติกรรมผู้ใช้:
ปัจจัยต่างๆ เช่น
เวลาที่ใช้บนเว็บไซต์
,
อัตราตีกลับ
และ
อัตราการคลิกผ่าน
เป็นสัญญาณสำคัญที่ช่วยให้เครื่องมือค้นหาประเมินคุณภาพประสบการณ์ผู้ใช้
บนเว็บไซต์ของคุณได้
-
โซเชียลมีเดีย:
โซเชียลมีเดียมีบทบาททางอ้อมในการเผยแพร่เนื้อหา สร้างแบรนด์และชื่อเสียง แม้ว่าลิงก์โซเชียลมีเดียจะไม่มีคุณค่าทาง SEO เท่ากับแบ็คลิงก์บนเว็บไซต์ แต่มันก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับการเพิ่มปริมาณการเข้าชมและโอกาสในการขาย
สรุป: SEO คือระบบนิเวศที่ครอบคลุม
เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการทำ SEO คุณต้องมองว่ามันเป็นหนทางที่จะมีส่วนร่วมในระบบนิเวศโดยรวมของอุตสาหกรรมของคุณ นั่นคือ การนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพแก่ผู้ชม การสร้างความสัมพันธ์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์
เมื่อเว็บไซต์ถูกสร้างขึ้นตามมาตรฐาน SEO แล้ว กิจกรรมทางการตลาดดิจิทัลอื่นๆ ทั้งหมดจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเพิ่มปริมาณการเข้าชมแบบออร์แกนิกจะนำมาซึ่งโอกาสในการขายมากขึ้น นี่คือที่มาของแพลตฟอร์มการจัดการแบบรวมศูนย์อย่าง GTG CRM ที่ช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลลูกค้าเป้าหมาย จัดประเภท และมอบหมายงานให้กับทีมขายโดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณไม่พลาดโอกาสทางธุรกิจใดๆ
เว็บไซต์ที่ได้มาตรฐาน SEO คือรากฐาน และการผสานรวมเข้ากับแพลตฟอร์มอัจฉริยะอย่าง GTG CRM จะช่วยให้คุณสร้างแคมเปญการตลาดดิจิทัลที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่การดึงดูดลูกค้าไปจนถึงการแปลงเป็นรายได้ที่ยั่งยืน