ข้อมูลเชิงลึก

โครงสร้างแคมเปญโฆษณา Google มาตรฐาน: มุ่งเน้นที่การเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนและเพิ่มอัตราการแปลง

ทันห์ ตรา

532 ยอดดู

สารบัญ

ลองนึกภาพดู: Google กำลังมองหา "ผู้โฆษณาที่ยอดเยี่ยม" เพื่อเป็นรางวัล และรางวัลนั้นก็คือ CPC ที่ต่ำลงและตำแหน่งการแสดงผลที่ดีขึ้น

แล้วจะกลายเป็น "ผู้ลงโฆษณาที่ยอดเยี่ยม" ในสายตาของ Google ได้อย่างไร

โครงสร้างแคมเปญ Google Ads มาตรฐาน - GTG CRM

นั่นคือ คุณต้องสร้าง ประสบการณ์ที่ราบรื่นตั้งแต่ผู้ใช้ค้นหาจนกระทั่งเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ทุกอย่างต้อง “เหมาะสม” อย่างสมบูรณ์แบบ:

  • คำหลักต้องแสดงถึงจุดประสงค์ในการค้นหาของผู้ใช้ได้อย่างถูกต้อง
  • โฆษณาของคุณต้องมีคำหลักเหล่านั้นและนำเสนอโซลูชันที่น่าสนใจ
  • หน้า Landing Page ต้องเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมที่สุด ที่ผู้ใช้จะพบสิ่งที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ พร้อมความเร็วในการโหลดที่รวดเร็วทันใจ

เมื่อปัจจัยทั้งสามนี้มารวมกัน คะแนนคุณภาพของคุณจะพุ่งสูงขึ้น และ Google จะ “ให้รางวัล” คุณด้วยการจัดลำดับความสำคัญของโฆษณาของคุณด้วยต้นทุนที่ต่ำที่สุด สรุปคือ อย่าไล่ตามงบประมาณ แต่ให้เน้นที่ความเกี่ยวข้องและประสบการณ์ของผู้ใช้ นั่นคือเส้นทางสู่ผลกำไรที่ยั่งยืน

มาสำรวจ GTG CRM กันถึงวิธีการสร้าง "Google Ads House" ที่แข็งแกร่ง ทีละชั้น

ระดับ 1: ระดับบัญชี - รากฐานสู่ความสำเร็จ

บัญชี Google Ads คือที่ตั้งของแคมเปญโฆษณาทั้งหมดของคุณ ตั้งแต่เริ่มต้น คุณต้องกำหนดสิ่งต่อไปนี้ให้ชัดเจน:

  • เป้าหมายทางธุรกิจ: คุณลงโฆษณาเพื่ออะไร? เพิ่มยอดขาย ดึงดูดลูกค้าเป้าหมาย หรือเพิ่มการรับรู้แบรนด์?
  • การจัดระเบียบอย่างมีเหตุผล: แต่ละบัญชีควรมีไว้สำหรับแบรนด์หรือธุรกิจเดียวเท่านั้น วิธีนี้ช่วยให้ติดตามประสิทธิภาพและวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายโดยไม่สับสน
  • การติดตามลิงก์: นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เชื่อมโยงบัญชี Google Analytics 4 (GA4) และ Google Tag Manager และตั้งค่าเครื่องมือวัด Conversion เรียบร้อยแล้ว บัญชีที่มีการติดตามอย่างครบถ้วนจะช่วยให้คุณวัดประสิทธิภาพของเงินทุกบาทที่ใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ จึงทำให้ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมที่สุด

ชั้นที่ 2: ระดับแคมเปญ - แบ่งเป้าหมายขนาดใหญ่

แคมเปญเปรียบเสมือนแผนกขนาดใหญ่ในบ้าน แต่ละห้องมีเป้าหมายแยกกัน

คุณควรแบ่งแคมเปญตาม :

  • เป้าหมายหลัก: ตัวอย่างเช่น: แคมเปญ "รวบรวมลูกค้าเป้าหมาย" สำหรับหลักสูตร แคมเปญ "ขาย" สำหรับผลิตภัณฑ์ A
  • หมวดหมู่สินค้า/บริการขนาดใหญ่: แคมเปญ "การตลาดอัตโนมัติ" และ "การจัดการโซเชียลมีเดีย" สำหรับ GTG CRM ผลิตภัณฑ์
  • ช่องทางการโฆษณา: แคมเปญแยกต่างหาก การค้นหา โฆษณาแบบดิสเพลย์ วิดีโอ หรือ ประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อหลีกเลี่ยงการทับซ้อนของงบประมาณและควบคุมประสิทธิภาพได้อย่างง่ายดาย
  • งบประมาณและ เป้าหมาย: แต่ละแคมเปญจะมีงบประมาณและการกำหนดเป้าหมายแยกกัน (ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ อุปกรณ์ และเวลา)

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด: ตั้งชื่อแคมเปญของคุณอย่างเป็นระบบ เช่น: [ประเทศ] - [ช่องทาง] - [ผลิตภัณฑ์] เช่น "VN – การค้นหา – หลักสูตรการตลาด"

ระดับ 3: ระดับกลุ่มโฆษณา - เชี่ยวชาญในหัวข้อต่างๆ

หากแคมเปญเป็นห้องขนาดใหญ่ กลุ่มโฆษณาจะเปรียบเสมือนตู้เก็บเอกสารขนาดเล็กในแต่ละห้อง แต่ละกลุ่มโฆษณาควรเกี่ยวข้องกับ หัวข้อที่แคบ หรือ จุดประสงค์ในการค้นหาที่เฉพาะเจาะจง .

ตัวอย่างเช่น: ในแคมเปญ “หลักสูตรการตลาดดิจิทัล” คุณสามารถสร้างกลุ่มโฆษณาได้ดังนี้:

  • กลุ่มโฆษณา 1: "หลักสูตรการตลาดดิจิทัล โฮจิมินห์" (เน้นคีย์เวิร์ดตามสถานที่)
  • กลุ่มโฆษณา 2: "หลักสูตรการตลาดดิจิทัลออนไลน์" (เน้นคีย์เวิร์ดของหลักสูตรออนไลน์)

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย: การรวมคีย์เวิร์ดทั้งหมดไว้ในกลุ่มเดียว ซึ่งจะทำให้โฆษณาไม่เกี่ยวข้อง ลดคะแนนคุณภาพ และเพิ่มราคาเสนอ

ระดับ 4: ระดับคีย์เวิร์ด - จุดที่ลูกค้าเป้าหมายมาพบกัน

คีย์เวิร์ดคือตัวเชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้และโฆษณาของคุณ การใช้ประเภทการจับคู่คำหลักอย่างชาญฉลาดคือกุญแจสำคัญ:

  • การจับคู่แบบตรงทั้งหมด: การควบคุมสูงสุด ปรับแต่งให้เหมาะกับคำหลักหลักของคุณ
  • การจับคู่แบบวลี: กว้างปานกลาง ครอบคลุมรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น
  • คำหลักเชิงลบ: อัปเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อกำจัดคำค้นหาที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาปริมาณการเข้าชมให้น้อยที่สุด

เคล็ดลับการเพิ่มประสิทธิภาพ: สำหรับคำหลักที่สำคัญ ให้ใช้โครงสร้าง SKAG (กลุ่มโฆษณาคำหลักเดียว) นั่นคือ แต่ละกลุ่มโฆษณาจะมีคำหลักเพียงคำเดียว วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าโฆษณา ตรงกับคำค้นหาของผู้ใช้อย่างสมบูรณ์แบบ ส่งผลให้ CTR เพิ่มขึ้น และ คะแนนคุณภาพเพิ่มขึ้น

ฟีเจอร์การสร้างและจัดการ Google Ads GTG CRM - AI แบบบูรณาการ แนะนำคำหลักที่เป็นไปได้โดยอัตโนมัติ และจัดกลุ่มคำหลักตามความตั้งใจในการค้นหาของผู้ใช้ ( การซื้อ การวิจัย การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์... ) ช่วยให้คุณสร้างโครงสร้างกลุ่มโฆษณาที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น การจัดการและสร้างโฆษณาโดยอิงตามพฤติกรรมของลูกค้าและคู่แข่ง Google Ads ง่ายขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาคำหลัก ช่วยให้คุณสร้างโครงสร้างบัญชีโฆษณามาตรฐาน

GTG CRM แนะนำคำหลักด้วย AI

ระดับ 5: ระดับโฆษณา

แต่ละกลุ่มโฆษณาต้องมีตัวอย่างโฆษณาอย่างน้อย 2-3 ตัวอย่าง รวมถึง โฆษณาแบบค้นหาที่ปรับเปลี่ยนตามบริบท (RSA) เพื่อให้ Google สามารถทดสอบและค้นหาเวอร์ชันที่มีประสิทธิภาพที่สุดโดยอัตโนมัติ

หลักการเขียนโฆษณามาตรฐาน:

  • มีคำหลัก: ปรากฏในชื่อเรื่องและคำอธิบาย
  • เน้นย้ำถึงคุณค่าที่โดดเด่น (UVP): ทำไมผู้ใช้จึงควรเลือกคุณ
  • คำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA): "ลงทะเบียนเลย" "เรียนรู้เพิ่มเติม", "ทดลองใช้ฟรี"...
  • ใช้ประโยชน์จากส่วนขยายโฆษณา: ลิงก์ไซต์, ข้อความไฮไลต์, สนิปเพ็ตแบบมีโครงสร้าง... ช่วยให้โฆษณาของคุณโดดเด่นและเพิ่ม CTR

หน้า Landing Page และคะแนนคุณภาพ: สองปัจจัยที่กำหนดความสำเร็จหรือความล้มเหลว

ความพยายามทั้งหมดข้างต้นจะไร้ความหมายหากหน้า Landing Page ของคุณไม่ดี หน้า Landing Page ต้อง สอดคล้อง กับคำหลักและเนื้อหาโฆษณา หน้า Landing Page ที่โหลดเร็ว มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง และได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับ Conversion (CRO) จะเป็น "ข้อดี" อย่างมากสำหรับคะแนนคุณภาพ

คะแนนคุณภาพ ประกอบด้วย:

  • อัตราการคลิกผ่านที่คาดหวัง (CTR): โฆษณาของคุณน่าสนใจหรือไม่
  • ความเกี่ยวข้องของโฆษณา: โฆษณาตรงกับคีย์เวิร์ดหรือไม่
  • ประสบการณ์หน้า Landing Page: หน้า Landing Page ดีและเกี่ยวข้องหรือไม่

สรุป

โครงสร้าง Google Ads มาตรฐานช่วยให้คุณดึงดูดผู้เข้าชมที่มีคุณภาพ แต่เป้าหมายสูงสุดคือการเปลี่ยนลูกค้าเป้าหมายให้กลายเป็นรายได้

นี่คือจุดที่ GTG CRM เข้ามามีบทบาท:

  • การจัดการลูกค้าเป้าหมายแบบอัตโนมัติ: GTG CRM สามารถบันทึกและจัดประเภทลูกค้าเป้าหมายจากแคมเปญ Google Ads ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้ทีมขายสามารถจัดการลูกค้าเป้าหมายได้ทันที
  • การวัดผลอย่างละเอียด: รายงาน GTG CRM ช่วยให้คุณวิเคราะห์ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น: แคมเปญใดนำลูกค้าเป้าหมายที่มีคุณภาพดีที่สุด? คีย์เวิร์ดใดที่ปิดการขายได้มากที่สุด
  • การผสานรวมหลายช่องทาง: GTG CRM ช่วยให้คุณติดตามเส้นทางของลูกค้าตั้งแต่วินาทีที่พวกเขาคลิกโฆษณา Google Ads ของคุณ จนกระทั่งพวกเขาโต้ตอบบน Facebook, Zalo หรืออีเมล

พร้อมเติบโตไปกับ GTG CRM

ทดลองใช้ฟรี 14 วัน
ฟีเจอร์ครบทุกอย่าง
ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต