ข้อมูลเชิงลึก

เลือกคีย์เวิร์ด Google Ads ที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้นเพื่อประหยัดงบประมาณ 70%

ทันห์ ตรา

532 ยอดดู

สารบัญ

ประสิทธิภาพของแคมเปญ Google Ads ขึ้นอยู่กับคุณภาพของรายการคีย์เวิร์ดโดยตรง ผู้ประกอบการโฆษณาหลายรายประสบปัญหางบประมาณหมดเกลี้ยงโดยไม่มีประสิทธิภาพในการแปลงแคมเปญ ส่วนหนึ่งเกิดจากการระบุและเลือกคีย์เวิร์ดที่ไม่เหมาะสมกับเป้าหมายของแคมเปญ

บทความนี้จะเจาะลึกหลักการสำคัญต่างๆ ตั้งแต่การจัดหมวดหมู่ ความตั้งใจในการค้นหาของผู้ใช้ ไปจนถึงการใช้กลยุทธ์คีย์เวิร์ดเชิงลึก เป้าหมายคือการสร้างกรอบแนวคิดเชิงทฤษฎีที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้ผู้จัดการและผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดสร้างแคมเปญโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน และเพิ่มผลกำไรอย่างยั่งยืน

การค้นหาคีย์เวิร์ดทำได้ง่ายขึ้นด้วย GTG CRM

ความสำคัญของการเลือกคีย์เวิร์ด

ในโลกของการโฆษณาออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูง การเลือกคีย์เวิร์ดไม่ใช่แค่ก้าวแรก แต่ยังเป็นตัวกำหนดความสำเร็จ 80% ของแคมเปญ Google Ads อีกด้วย กลยุทธ์คีย์เวิร์ดที่ออกแบบมาอย่างดีไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้ตรงกลุ่มเท่านั้น แต่ยังช่วย เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน หลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองงบประมาณไปกับการคลิกที่ไม่ได้ สร้าง Conversion อีกด้วย

บทความนี้จะเจาะลึกด้านเทคนิค ช่วยให้ทั้งผู้เริ่มต้นและผู้มีประสบการณ์สามารถสร้างรายการคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

การวิเคราะห์เจตนาในการค้นหา - ก้าวแรก

ก่อนที่จะคิดถึงการวิจัยคีย์เวิร์ด ลองคิดในมุมมองของลูกค้าดูก่อน พวกเขากำลังมองหาอะไร? เป้าหมายของพวกเขาคืออะไร? การวิเคราะห์เจตนาในการค้นหา (เจตนาในการค้นหา) ช่วยให้คุณกำหนดประเภทคำหลักที่เหมาะสมที่สุด:

  • คำหลักเจตนาในการให้ข้อมูล: โดยทั่วไปแล้วจะเป็นคำค้นหาที่ให้ความรู้และตอบคำถาม
    • ตัวอย่างเช่น: "วิธีใช้ Google Analytics", "CRM คืออะไร"
    • การประยุกต์ใช้: เหมาะสำหรับโพสต์บล็อก เอกสารเชิงลึกเพื่อดึงดูดผู้เข้าชม สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์
  • คำหลักเจตนาในการทำธุรกรรม: แสดงเจตนาในการซื้อที่ชัดเจน
    • ตัวอย่างเช่น: "ซื้อซอฟต์แวร์ CRM" "สั่งซื้อ GTG CRM", "ราคาซอฟต์แวร์จัดการการขาย"
    • การใช้งาน: ใช้สำหรับแคมเปญการขายตรง การโฆษณาสินค้า/บริการ บน Google Shopping หรือ Search

การแยกแยะเจตนาทั้งสองประเภทนี้อย่างชัดเจนจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลืองงบประมาณ ไปกับคีย์เวิร์ดเชิงข้อมูล เมื่อเป้าหมายหลักคือยอดขาย

การทำความเข้าใจประเภทการจับคู่คีย์เวิร์ด (ประเภทการจับคู่คีย์เวิร์ด)

Google Ads มีประเภทการจับคู่คีย์เวิร์ดหลักสามประเภทเพื่อช่วยคุณควบคุมขอบเขตของโฆษณาแบบดิสเพลย์ การใช้ประเภทการจับคู่เหล่านี้อย่างยืดหยุ่นเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพและต้นทุน

  • การจับคู่แบบกว้าง: มีขอบเขตที่กว้างที่สุด ช่วยให้โฆษณาแสดงเมื่อผู้ใช้ค้นหา วลีที่เกี่ยวข้องกับคำหลักของคุณ
    • ตัวอย่างเช่น: คำหลัก "ซอฟต์แวร์ CRM" สามารถแสดงสำหรับการค้นหา เช่น "เครื่องมือการจัดการลูกค้า", "แอปพลิเคชันการจัดการธุรกิจ"
    • เคล็ดลับ: ใช้ด้วยความระมัดระวัง ใช้ร่วมกับคำหลักเชิงลบเพื่อหลีกเลี่ยงการสิ้นเปลือง เหมาะสำหรับการค้นหาคำหลักใหม่ๆ
  • การจับคู่วลี: รักษาบริบทของคำหลัก โฆษณาของคุณจะแสดงเมื่อวลีคีย์เวิร์ดของคุณปรากฏในคำค้นหา โดยอาจมีคำอื่นนำหน้าหรือตามหลังด้วย
    • ตัวอย่างเช่น: คีย์เวิร์ด "ซอฟต์แวร์จัดการลูกค้า" จะแสดงสำหรับ "ซอฟต์แวร์จัดการลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ" หรือ "ซอฟต์แวร์ที่ดีที่สุดสำหรับการจัดการลูกค้า"
    • เคล็ดลับ: นี่คือประเภทการจับคู่ที่ใช้กันมากที่สุดและปลอดภัยที่สุด ซึ่งช่วยสร้างสมดุลระหว่างการเข้าถึงและความเกี่ยวข้อง
  • การจับคู่แบบตรงทั้งหมด: การจับคู่ที่แคบที่สุด จะแสดงเฉพาะเมื่อคำค้นหาตรงกันทุกประการ หรือมีจุดประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน
    • ตัวอย่างเช่น: คีย์เวิร์ด [ซอฟต์แวร์ GTG CRM] จะแสดงเฉพาะเมื่อผู้ใช้ค้นหา "ซอฟต์แวร์ GTG CRM", "ซอฟต์แวร์ GTG CRM", “โซลูชัน GTG CRM”
    • เคล็ดลับ: ให้ความสำคัญกับการใช้คีย์เวิร์ดที่มีความตั้งใจซื้อสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน และเพิ่มอัตราการแปลง

กลยุทธ์การใช้คีย์เวิร์ดแบบหางยาว

แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่คีย์เวิร์ดทั่วไปสั้นๆ เช่น "CRM" หรือ "ซอฟต์แวร์" ให้ให้ความสำคัญกับ คีย์เวิร์ดแบบหางยาว (คีย์เวิร์ดแบบหางยาว) คีย์เวิร์ดเหล่านี้คือวลีที่ประกอบด้วยคำ 3-5 คำขึ้นไป แสดงถึงความตั้งใจของผู้ใช้ได้อย่างชัดเจน และมีอัตราการแปลงที่สูงกว่า

  • สำหรับ ตัวอย่าง: "ซอฟต์แวร์ CRM สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม", "ราคาซอฟต์แวร์จัดการโฆษณา", "วิธีจัดการข้อความหลายช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพ"

ทำไมจึงควรใช้คีย์เวิร์ดแบบหางยาว

  • ต้นทุนต่ำ: ระดับการแข่งขันมักจะต่ำลง ช่วยลดการเสนอราคา
  • อัตราการแปลงสูง: ลูกค้ามีความตั้งใจที่ชัดเจนในการซื้อ ช่วยเพิ่มโอกาสในการแปลงเป็นลูกค้า
  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง: ลดการคลิกที่ไม่พึงประสงค์ที่เกี่ยวข้อง เพิ่มคุณภาพการเข้าชม

การวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้คีย์เวิร์ดเชิงลบ

แคมเปญโฆษณาจะประสบความสำเร็จไม่ได้หากปราศจากการวิเคราะห์ข้อมูล

  • การเลือกคีย์เวิร์ดตามข้อมูล: ใช้ Google Keyword Planner เพื่อประเมิน ปริมาณการค้นหา และ ระดับการแข่งขัน หากงบประมาณของคุณจำกัด ควรให้ความสำคัญกับคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการเข้าชมปานกลาง (ประมาณ 1,000 - 3,000 การค้นหา/เดือน) เพื่อโอกาสในการแสดงผลที่ดีขึ้น
  • คีย์เวิร์ดเชิงลบ: นี่คืออาวุธลับที่จะช่วยคุณเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน ใช้คำเชิงลบ เช่น "ฟรี", "กำลังจ้าง", "เปรียบเทียบ", "รีวิว" เพื่อตัดคำค้นหาที่ไม่ทำให้เกิด Conversion ออกไป

เพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการข้างต้นด้วย GTG CRM

การผสานรวม GTG CRM การวิจัยคีย์เวิร์ดด้วย AI เพื่อให้การวิจัยคีย์เวิร์ด รวดเร็ว แม่นยำยิ่งขึ้น และขับเคลื่อนด้วยข้อมูล กว่าที่เคย:

  • คำแนะนำคีย์เวิร์ดที่ชาญฉลาด: AI วิเคราะห์หัวข้อของเว็บไซต์ ข้อความโฆษณา และแนวโน้มตลาดของคุณ เพื่อแนะนำรายการคีย์เวิร์ดที่มีศักยภาพสูงสุด คุณไม่จำเป็นต้องกรองคีย์เวิร์ดหลายร้อยคำด้วยตนเองอีกต่อไป
  • การวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับคู่แข่งและ CPC: GTG CRM จะวิเคราะห์คีย์เวิร์ดแต่ละคำตาม ปริมาณการค้นหา ระดับการแข่งขัน และ CPC โดยประมาณ ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าคีย์เวิร์ดใดเหมาะสมกับงบประมาณและเป้าหมายการโฆษณาของคุณ
  • การวิเคราะห์คู่แข่งโดยตรง: แทนที่จะคาดเดา คุณสามารถป้อน เว็บไซต์ของคู่แข่ง เพื่อให้ระบบ AI สามารถดึงชุดคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งกำลังใช้ออกมาได้ วิธีนี้ให้มุมมองที่ครอบคลุม ช่วยให้คุณวางตำแหน่งกลยุทธ์การโฆษณาได้แม่นยำยิ่งขึ้น

ด้วย GTG CRM คุณมี ภาพรวมของคำหลักที่ครอบคลุม: ประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพต้นทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน บน Google Ads

สรุป

GTG CRM เป็นมากกว่าซอฟต์แวร์จัดการลูกค้า แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มการตลาดแบบหลายช่องทางที่ทรงพลัง ช่วยให้คุณดำเนินแคมเปญโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ การวิจัยคีย์เวิร์ดเพื่อการจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพช่องทางการตลาดทั้งหมด

คุณพร้อมที่จะยกระดับแคมเปญ Google Ads ของคุณไปอีกขั้นด้วยกลยุทธ์คีย์เวิร์ดที่วางแผนมาอย่างดีแล้วหรือยัง? ติดต่อ GTG CRM ได้เลยวันนี้เพื่อรับคำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับโซลูชันการตลาดที่ครอบคลุม

พร้อมเติบโตไปกับ GTG CRM

ทดลองใช้ฟรี 14 วัน
ฟีเจอร์ครบทุกอย่าง
ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต